ศพพลทหารถึงบ้าน ผบ.พันตามส่ง ญาติรอดูจับ 6 นายทหารรุมทำร้าย
ศพพลทหาร
ศพพลทหารถูกนายทหารรุมทำร้ายตายที่ยะลา ถูกคลุมธงชาติส่งกลับถึงบ้านเกิดอ.สิชลแล้ว ผบ.พันตามส่งถึงวัด มอบเงินช่วยเบื้องต้น 2 แสน กับเงินที่เพื่อนทหารช่วยอีก 3.7 หมื่น รับปากให้ความเป็นธรม ขณะญาติยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด...
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 5 เม.ย. ที่วัดเสาเภา หมู่ 2 ต.เสาเภา อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ญาติได้นำศพของพลทหารทรงธรรม หมัดหมุด ทหารเกณฑ์สังกัด ร.152 พัน 1 ค่ายพยัคฆ์ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ที่ถูกนายทหารมากกว่า 6 นาย รุมทำร้ายร่างกายจากสาเหตุทะเลาะวิวาท จนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตที่ รพ.ศูนย์ยะลา เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่ผ่านมา นำกลับมาบำเพ็ญกุศล ศพได้อยู่ในชุดลายพรางทหาร คลุมด้วยธงชาติบรรทุกโดยรถตู้ของมูลนิธิฯ เดินทางมาถึงศาลาของวัดเสาเภา โดยมีนางจิตรา ช่อมณี อายุ 46 ปี และนายอภิชาต หมัดหมุด อายุ 50ปี แม่และพ่อของพลทหารทรงธรรม พร้อมด้วยญาติๆ กว่า 100 คนมารอรับศพในบริเวณวัดด้วยความโศกเศร้าอาลัย
พร้อมกันนี้ พ.อ.อุทิศ อนันตนานนท์ ผบ.กรมทหารราบที่ 52 พัน 1 ในฐานะผู้บังคับบัญชาของพลทหารทรงธรรม ได้เดินทางมาส่งศพพลทหารทรงธรรมด้วยตนเองจนถึงวัดเสาเภา และมี พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงศ์ ผกก.สภ.สิชล พ.ต.ประเสริฐ สายทองแท้ ผบ.ค่ายฝึกการรบพิเศษสิชล มาร่วมรับศพพลทหารทรงธรรมและร่วมรดน้ำศพด้วย เบื้องต้นทาง พ.อ.อุทิศ ได้มอบเงินช่วยเหลือศพพลทหารทรงธรรมจำนวน 2 แสนบาท และเงินช่วยเหลือจากเพื่อนทหารที่เรี่ยไรรวมกันเป็นเงิน 3.7 หมื่นบาท มอบให้กับนางจิตรา แม่ของพลทหารทรงธรรม
นางจิตรา กล่าวกับผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตา ว่า ตนและญาติๆ กำหนดเผาศพพลทหารทรงธรรมในวันอาทิตย์ที่ 10 เมษายนนี้ ตามปกติ โดยในส่วนของคดีที่ผู้กระทำผิดร่วมกันซ้อมลูกชายตนจนเสียชีวิต ก็ขอให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองรีบดำเนินการนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว ซึ่งตนและบรรดาญาติๆ จะคอยดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพราะทาง พ.อ.อุทิศ ในฐานะผู้บังคับบัญชา ได้รับปากว่าจะให้ความเป็นธรรม นำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว
ทั้งนี้ นางจิตรา ได้กล่าวถึงครอบครัวว่า ครอบครัวตนเป็นครอบครัวที่ลำบาก มีลูก 3 คน พลทหารทรงธรรมเป็นคนโต และมีน้องสาวอีก 2 คน ตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ทั้งรับจ้างล้างถ้วยจานตามงานศพ และปอกกุ้งตามแพปลาเพื่อหาเงินมากินใช้ในครอบครัว ส่วนนายอภิชาต สามีไปทำงานเป็น รปภ. อยู่ที่กรุงเทพฯ เมื่อมาเสียลูกชายคนโต ก็ยิ่งทำให้ครอบครัวต้องลำบากขึ้นไปอีก.
โฆษก ทบ.ชี้แจง กรณีการเสียชีวิตของ พลทหารสังกัด ร.152 พัน 1 ค่ายพยัคฆ์ อ.บันนังสตา จ.ยะลา พบมีสาเหตุมาจากถูกทำโทษปรับปรุงวินัย เนื่องจากทำความผิดฐานเสพยาเสพติด พร้อมยืนยันกองทัพฯไม่ปกป้องกำลังพล ที่กระทำความผิด
จากกรณีพลทหารทรงธรรม หมุดหมัด อายุ 23 ปี พลทหารสังกัด ร.152 พัน 1 ค่ายพยัคฆ์ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งถูกทำโทษเนื่องจากกระทำความผิดทางวินัยจนทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และถูกส่งตัวมายัง รพ.ยะลา เมื่อวันที่ 2 เมย.59 ที่ผ่านมา โดย พลทหารทรงธรรม ไม่รู้สึกตัว และเข้ารับการรักษาที่ห้องไอซียู รพ.ยะลา จนล่าสุด เช้านี้ทางแพทย์ได้แจ้งให้แก่ญาติรับทราบว่า พลทหารทรงธรรม เสียชีวิตลงแล้ว
ล่าสุด วันนี้ (4 เม.ย.59) พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวชี้แจงกรณีการเสียชีวิตของ พลทหารทรงธรรม หมุดหมัด สังกัด ร.152 พัน.1 ว่า พบมีสาเหตุมาจากถูกทำโทษปรับปรุงวินัย เนื่องจากได้กระทำความผิดฐานเสพยาเสพติด ซึ่งกองทัพบกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอแสดงความเสียใจต่อญาติผู้สูญเสีย ทั้งนี้ ที่ผ่านมากองทัพบกได้มีการเน้นย้ำไปกับหน่วยทุกระดับมาตลอด ต่อการดำเนินการใดๆ กับผู้ใต้บังคับบัญชาจะต้องเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของทางราชการเท่านั้น ใครฝ่าฝืนจะต้องมีโทษสถานหนัก
สำหรับกรณีของ พลทหารทรงธรรม กองทัพบกยืนยันจะไม่ปกป้องกำลังพลที่กระทำความผิด ซึ่งทางหน่วยต้นสังกัด พล.ร.15 มีการตั้งกรรมการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องในทันที โดยผลสรุปพบว่า มีกำลังพลกระทำผิดจริง เป็นกำลังพลทั้งนายทหาร และนายสิบ รวม 6 นาย ด้วยการทำโทษปรับปรุงวินัยกำลังพลไม่เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับตามแบบธรรมเนียมทหาร ซึ่งขณะนี้หน่วยได้อยู่ในระหว่างการดำเนินการทางวินัยเพื่อลงโทษกำลังพลที่กระทำความผิดทั้ง 6 นาย ตามอำนาจที่มีอยู่ขั้นสูงสุด ส่วนการดูแลเยียวยาญาติ ทางหน่วยต้นสังกัดได้มีการเตรียมการไว้อย่างเรียบร้อย อยู่ในระหว่างประสานกับทางญาติพลทหารทรงธรรม.
ศพพลทหารถึงบ้าน ผบ.พันตามส่ง ญาติรอดูจับ 6 นายทหารรุมทำร้าย
Reviewed by Anonymous
on
5:38:00 PM
Rating: